แอล –คาร์นิทีน (L-Carnitine) เร่งการเผาผลาญไขมัน
แอล –คาร์ พลัส ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมีส่วนประกอบที่สำคัญใน 1 แคปซูล:
-แอล –คาร์นิทีน แอล-ทาร์เทรต 500 มก.
-แอล –ไทโรซีน 50 มก.
-กรดอัลฟา ไลโปอิก 25 มก.
-นิโคตินาไมด์ 5 มก.
-วิตามินบี 6 2 มก.
-โครเมียม พิโคลิเนต 1 มก.(ให้โครเมียม 124 มคก.)
ทะเบียน อย. 73-1-32023-1-0053
กรดอะมิโน แอล-คาร์นิทีน มีหน้าที่เร่งการเผาผลาญไขมันให้เป็นพลังงาน (Fat Burner) ช่วยเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อ ลดไตรกลีเซอไรด์ (TG) และโคเลสเตอรอลตัวร้าย (LDL) เพิ่มโคเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) จึงช่วยป้องกันโรคหัวใจ ลดความเสี่ยงจากโรคหัวใจวาย ช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของเซล์ ทำให้แก่ช้าลง และช่วยให้สามารถออกกำลังกายหรือทำงานได้ทนและนานขึ้น
*รับประทานวันละ 1-2 ครั้ง ครั้งละ 1-3 แคปซูล ก่อนหรือพร้อมอาหารเช้า- กลางวัน*
*ปริมาณการเผาผลาญไขมันข้นอยู่กับกิจกรรมที่ทำหลังรับประทาน เช่น ถ้าทานแล้วไปนอน ก็จะเผาผลาญไขมันได้น้อยกว่าการออกไปเดิน หรือไปแอบิค*
*ผู้ที่กินมังสวิรัติ และผู้ที่ไม่รับประทานเนื้อแดง มีโอกาสขาดสารแอล-คาร์นิทีนได้*
แอล-ไทโรซีน (Tyrosine)
เป็นกรดอะมิโนที่ร่างกายใช้ผลิตฮอร์โมนไทร็อกซิน (Thyroxine) ที่ช่วยเร่งอัตราการเผาผลาญอาหารให้เป็นพลังงาน ช่วยลดไขมันสะสม เป็นสารต้นตอที่ใช้ในการผลิตสารสื่อประสาทหลายชนิดที่ออกฤทธิ์ลดความอยากอาหาร (appetite suppressan) ลดความเครียด ทำให้สมองตื่นตัว ลดอาการหดหู่ ซึมเศร้า นอนไม่หลับ ขี้หลง ขี้ลืม ช่วยให้เซลล์แก่ช้าลง นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มพลังงานทางเพศอีกด้วย
*ขนาดรับประทานวันละ 500-1500 มก.*
อัลฟา ไลโปอิค แอซิด (Alpha Lipoic Acid)
เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์แรง (Super antioxidant) เพราะมีคุณสมบัติพิเศษคือละลายได้ดีทั้งในน้ำและน้ำมัน จึงสามารถซึมผ่านชั้นของไขมันเข้าไปในเซลล์ เนื้อเยื่อและอวัยวะทุกส่วนของร่างกาย ทำให้เซลล์ทุกเซลล์ได้รับการปกป้องจากการถูกทำลายของอนุมูลอิสระที่เกิดจากขบวนการทางชีวเคมีของร่างกาย ช่วยเพิ่มการส่งกลูโคสเข้าสู่เซลล์เพื่อเผาผลาญให้เป็นพลังงาน ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง และที่สำคัญช่วยทำให้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มลดน้ำหนักและบำรุงผิวพรรณมีประสิทธิภาพแบบก้าวกระโดด
วิตามินบี 3 (Nicotinamide), วิตามินบี 6 (Vitamin B6)
ช่วยเร่งขบวนการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน เป็นส่วนสำคัญของขบวนการสร้างโปรตีน สร้างกล้ามเนื้อ ฮอร์โมน เม็ดเลือดแดง เอนไซม์ และสารสื่อประสาทหลายชนิดที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมอารมณ์ ควบคุมความอยากอาหารและการนอนหลับ เนื่องจากวิตามินบี 3 เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ ทำให้ร่างกายไม่สามารถกักเก็บไว้ จำเป็นต้องได้รับจากอาหาร หรือจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทุกวัน
โครเมียม พิโคลิเนต (Chromium Picolinate)
โครเมี่ยม มีความจำเป็นต่อขบวนการย่อยสลายโปรตีน ไขมันและคาร์โบไฮเดรต ช่วยในการรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในภาวะปกติ โดยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของอินซูลิน เพิ่มการเปลี่ยนกลูโคสไปใช้เป็นพลังงาน ช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันเก่า ป้องกันการสะสมของไขมันใหม่นอกจากนี้โครเมี่ยมยังจะช่วยเสริมฤทธิ์แอล-คาร์นิทีน ในการลดน้ำหนักเพิ่มมวลกล้ามเนื้ออีกด้วย
ไพรูเวท พลัส ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
มีส่วนประกอบที่สำคัญใน 1 แคปซูล:
-แคลเซียม ไพรูเวท 500 มก.
-แอล –ไทโรซีน 200 มก.
-กรดอัลฟา ไลโปอิก 25 มก.
-นิโคตินาไมด์ 3.5 มก.
-วิตามินบี 6 1 มก.
-โครเมียม พิโคลิเนต 0.5 มก.(ให้โครเมียม 62 มคก.)
ทะเบียน อย. 73-1-32023-1-0055
สารไพรูเวท มีความจำเป็นต่อกระบวนการเผาผลาญพลังงานในระดับเซลล์ ที่จะทำให้ร่างกายดึงเอาไขมันส่วนเกินออกมาใช้ และยังช่วยเพิ่มการส่งผ่านกลูโคสเข้าสู่เซลล์เพื่อเปลี่ยนให้เป็นพลังงาน ส่งผลให้กล้ามเนื้อได้รับพลังงานในทันทีทันใด ร่างกายจึงรู้สึกสดชื่น มีพลัง สามารถออกกำลังกายหรือทำงานได้นานขึ้นโดยไม่รู้สึกเหนื่อยง่าย อีกทั้งยังเป็นคู่หูกับ “แอล-คาร์นิทีน” ในการทำหน้าที่เร่งการเผาผลาญไขมัน นอกจากนี้ยังช่วยเสริม “แคลเซียม” ให้กระดูกได้อีกด้วย
*รับประทานวันละ 2-3 ครั้ง ครั้งละ 1-3 แคปซูล ก่อนอาหารหรือก่อนออกกำลังกาย 15-30 นาที*
*แคลเซียม ไพรูเวท 500 มก. ให้แคลเซียมประมาณ 93.5 มก.*
แอล-ไทโรซีน (Tyrosine)
เป็นกรดอะมิโนที่ร่างกายใช้ผลิตฮอร์โมนไทร็อกซิน (Thyroxine) ที่ช่วยเร่งอัตราการเผาผลาญอาหารให้เป็นพลังงาน ช่วยลดไขมันสะสม เป็นสารต้นตอที่ใช้ในการผลิตสารสื่อประสาทหลายชนิดที่ออกฤทธิ์ลดความอยากอาหาร (appetite suppressan) ลดความเครียด ทำให้สมองตื่นตัว ลดอาการหดหู่ ซึมเศร้า นอนไม่หลับ ขี้หลง ขี้ลืม ช่วยให้เซลล์แก่ช้าลง นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มพลังงานทางเพศอีกด้วย
*ขนาดรับประทานวันละ 500-1500 มก.*
อัลฟา ไลโปอิค แอซิด (Alpha Lipoic Acid)
เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์แรง (Super antioxidant) เพราะมีคุณสมบัติพิเศษคือละลายได้ดีทั้งในน้ำและน้ำมัน จึงสามารถซึมผ่านชั้นของไขมันเข้าไปในเซลล์ เนื้อเยื่อและอวัยวะทุกส่วนของร่างกาย ทำให้เซลล์ทุกเซลล์ได้รับการปกป้องจากการถูกทำลายของอนุมูลอิสระที่เกิดจากขบวนการทางชีวเคมีของร่างกาย ช่วยเพิ่มการส่งกลูโคสเข้าสู่เซลล์เพื่อเผาผลาญให้เป็นพลังงาน ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง และที่สำคัญช่วยทำให้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มลดน้ำหนักและบำรุงผิวพรรณมีประสิทธิภาพแบบก้าวกระโดด
วิตามินบี 3 (Nicotinamide), วิตามินบี 6 (Vitamin B6)
ช่วยเร่งขบวนการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน เป็นส่วนสำคัญของขบวนการสร้างโปรตีน สร้างกล้ามเนื้อ ฮอร์โมน เม็ดเลือดแดง เอนไซม์ และสารสื่อประสาทหลายชนิดที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมอารมณ์ ควบคุมความอยากอาหารและการนอนหลับ เนื่องจากวิตามินบี 3 เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ ทำให้ร่างกายไม่สามารถกักเก็บไว้ จำเป็นต้องได้รับจากอาหาร หรือจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทุกวัน
โครเมียม พิโคลิเนต (Chromium Picolinate)
โครเมี่ยม มีความจำเป็นต่อขบวนการย่อยสลายโปรตีน ไขมันและคาร์โบไฮเดรต ช่วยในการรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในภาวะปกติ โดยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของอินซูลิน เพิ่มการเปลี่ยนกลูโคสไปใช้เป็นพลังงาน ช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันเก่า ป้องกันการสะสมของไขมันใหม่นอกจากนี้โครเมี่ยมยังจะช่วยเสริมฤทธิ์แอล-คาร์นิทีน ในการลดน้ำหนักเพิ่มมวลกล้ามเนื้ออีกด้วย
พอลลีน่า ลิฟท์ แอนด์ ไวท์ (s101)
ส่วนประกอบสำคัญ :
คอลลาเจน แอล- กลูตาไธโอน วิตามินซี สารสกัดจากโรสแมรี่ ผลทับทิม เปลือกสนฝรั่งเศส เมล็ดองุ่น โคเอ็นไซ์ม์คิวเท็น
รับประทาานวันละ :1 แคปซูล ก่อนนอน
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร พอลลีน่า ลิฟท์ แอนด์ ไวท์
การรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่มุ่งเน้นเพื่อการดูแลผิวแทนคุณ เป็นวิธีที่ง่ายและปลอดภัยและได้ผลดี ด้วยหลักการ Synergist การผสมผสานที่ลงตัว ของสารสกัดจากธรรมชาติที่ล้วนแล้วแต่มีคุณสมบัติในการช่วยชะลอและฟื้นฟูผิวที่ถูกทำลาย และเสื่อมสภาพลงตามอายุ ด้วยสารสกัดมากมายที่ล้วนแล้วแต่ส่งเสริมการทำงานของผิวพรรณ โดยรวมเพื่อการเผยผิวขาวกระจ่างใส เนียนกระชับไร้ริ้วรอย
นี่คือเหตุผลและเป็นอีกทางเลือกที่เราจะให้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเป็นผู้ช่วยของเรา
สาเหตุที่ทำให้ผิวหนังเสื่อมสภาพ แบ่งเป็น 2 ประการใหญ่ๆ คือ
1. ความเสื่อมของผิวหนังตามวัย
2. ความเสื่อมของผิวหนังจากสิ่งแวดล้อมความเสื่อมของผิวหนังตามวัย
เมื่อคนเรามีอายุเพิ่มมากขึ้นร่างกายทุกส่วนย่อมเสื่อมสภาพลงแต่ความเสื่อมสภาพตามวัยของผิวหนังเป็นความเสื่อมที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนดังนี้
• ผิวหนังชั้นนอก ( หนังกำพร้า ) เป็นผิวหนังที่อยู่ชั้นนอกสุด ประกอบด้วย เซลล์ผิวที่ตายแล้ว( ขี้ไคล ) ทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้เชื้อโรคภายนอกเข้าสู่ร่างกาย รักษาความชุ่มชื้นให้กับผิวหนังและรักษาอุณหภูมิในร่างกายให้คงที่เมื่ออายุมากขึ้นชั้นหนังกำพร้าจะเริ่มบางลง ทำให้ผิวหยาบกระด้างเกิดแผลถลอกและติดเชื้อโรคได้ง่าย นอกจากนี้เวลาที่ผิวโดนแสงแดดจะไปกระตุ้นเซลล์เมลาโนไซด์ที่อยู่ในผิวหนังชั้นนอกให้ผลิตเม็ดสีเมลานินซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำบนใบหน้า
• ผิวหนังชั้นใน ( หนังแท้ ) ชั้นนี้อยู่ใต้หนังกำพร้า ประกอบด้วย เส้นเลือด เส้นประสาท ต่อมเหงื่อ ต่อมไขมัน เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน คอลาเจน อิลาสติน เมื่อมีอายุมากขึ้นทั้งต่อมไขมัน ต่อมเหงื่อ จะลดจำนวนและขนาดลง ทำให้เหงื่อและไขมันออกน้อยลง ผิวจึงแห้งมากขึ้น นอกจากนี้เส้นผม เส้นขนก็ลดขนาดและจำนวนลง ทำให้เส้นผมบางลง เล็บก็เปราะแตกหักง่าย การสร้างคอลาเจนและอิลาสตินก็ลดลงด้วย ทำให้ผิวหนังเกิดริ้วรอย เหี่ยวย่นและหย่อนยาน
• ชั้นไขมัน ชั้นนี้ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ช่วยลดแรงกระทบกระแทกแก่ร่างกาย เมื่อมีอายุมากขึ้นจะมีการสะสมของไขมันส่วนเกินที่บริเวณหน้าท้อง เอว สะโพก ต้นขา ใต้คางและต้นแขนแต่ชั้นไขมันที่บริเวณส้นเท้าจะบางลง ทำให้ส้นเท้าแตกได้ง่ายขึ้น
ความเสื่อมของชั้นผิวหนังจากสิ่งแวดล้อม เป็นสาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้เกิดความเสื่อมของผิวหนังดังนี้• แสงแดด เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้แก่ก่อนวัยอันควร เช่นทำให้เป็นกระ ฝ้า จุดด่างดำ รอยย่น มะเร็งผิวหนัง จึงต้องพยายามหลีกเลี่ยงและหาวิธีป้องกันแสงแดด เช่น ทาครีมกันแดด สวมหมวก สวมแว่นตาหรือกางร่ม
• สารเคมีควันพิษ ทำให้ผิวหนังสกปรก รูขุมขนอุดตัน สบู่ที่แรงเกินไปทำให้ผิวเสียได้
• อากาศอุณหภูมิ อากาศที่ร้อนอาจทำให้ผิวมันเป็นสิวได้ง่าย ส่วนอากาศแห้งและเย็นทำให้ผิวหนังแห้งและหยาบ เป็นผื่นคัน ลอกเป็นขุย ปากแห้งแตก
• ความเครียด ผิวก็เป็นอวัยวะแรกที่แสดงสัญญาณความเครียด ผิวจะดูหมองคล้ำและทำให้เกิดรอยย่นตรงหัวคิ้ว หน้าผาก และรอบดวงตา
• การอดนอน ทำให้ผิวหนังแห้ง เกิดริ้วรอย และรอยคล้ำใต้ตา การนอนอย่างเพียงพอเป็นสิ่งที่สำคัญเพราะขณะที่นอนหลับ ร่างกายและผิวของเราจะมีการซ่อมแซมและกลับมากระชุ่มกระชวยอีกครั้ง
• การสูบบุหรี่ การสูบบุหรี่ก่อให้เกิดผลในด้านลบกับผิวหลายประการ เนื่องจากสารนิโคตินในบุหรี่ทำให้หลอดเลือดตีบ ขวางกั้นการไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงผิวชั้นนอก การสูบบุหรี่ยังทำลายคอลาเจนที่มีหน้าที่รักษาความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของผิว อีกทั้งทำให้ระบบการรักษาบาดแผลช้าลงด้วย
ส่วนประกอบสำคัญ
• คอลาเจน 200 มก.
• แอล-กลูตาไธโอน 70 มก.
• วิตามิน ซี 25 มก.
• สารสกัดจากโรสแมรี่ 20 มก.
• สารสกัดจากผลทับทิม 20 มก.
• สารสกัดจากเปลือกสน 20 มก.
• สารสกัดจากเมล็ดองุ่น 20 มก.
• โคเอ็นไซม์ คิวเทน 10 มก.
• กรดอัลฟาไลโปอิค 10 มก.
• ซิงค์คีเลต 16 มก.• ซิลิเนียม คีเลต 7 มก.
• คอปเปอร์ คีเลต 3.5 มก.
• แมงกานีส คีเลต 0.55 มก.
คอลาเจน( Collagen )คืออาหารเสริมโปรตีนที่มีคุณภาพสูง ซึ่งมีส่วนผสมของสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพผิวเมื่อร่างกายได้รับสารอาหารในปริมาณที่เหมาะสม จะทำให้ผิวหนังมีความแข็งแรง ทนต่อสภาพถูกทำลายและยับยั้งการเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น วิตามินซี เป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับการผลิตและรักษาเนื้อเยื่อคอลาเจนการเพิ่มวิตามินซีในอาหารเสริมนี้ จะช่วยยับยั้งการเกิดริ้วรอยแห่งวัยได้โดย วิตามินซีจะเป็นตัวกำจัดอนุมูลอิสระในร่างกายหรือสิ่งสกปรกที่เกิดจากสภาพแวดล้อม สารเคมี อากาศและควันบุหรี่ การรับประทานอาหารเสริมคอลาเจนจะช่วยเพิ่มสารอาหารที่จำเป็นในการสร้างเนื้อเยื่อและช่วยชะลอความแก่เนื่องจากอาหารเสริมคอลาเจนแตกตัวและถูกดูดซึมได้อย่างรวดเร็ว อาหารเสริมคอลาเจนเหมาะสำหรับสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีที่ต้องการรักษาความอ่อนเยาว์และบำรุงผิวพรรณที่ถูกทำลายหรือเสื่อมสภาพลงเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของอายุ
แอล-กลูตาไธโอน( L-Glutathione )ร่วมกับเปลือกสนมาริไทม์ฝรั่งเศส และกรดอัลฟาไลโปอิก ( Alpha Lipoic Acid ) ซึ่งจะช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานินที่ผิวมากผิดปกติ ช่วยลดความหมองคล้ำของผิวและยังสามารถต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุของฝ้า กระ จุดด่างดำ ด้วยคุณค่าสารอาหารธรรมชาติทั้ง 3 นี้ ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสขึ้น ลดเลือนริ้วรอยหมองคล้ำและจุดด่างดำได้อย่างเป็นธรรมชาติ รวมถึงผิวทั่วเรือนร่าง เช่นใต้วงแขน บริเวณขอบชั้นใน( Bikini line )ริมฝีปาก และบริเวณหัวนมให้ขาวอมชมพู
วิตามินซี
• กระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาวและแอนตี้บอดี้ เพิ่มภูมิคุ้มกัน ป้องกันโรคหวัด ภูมิแพ้ ติดเชื้อง่าย เป็นยาปฏิชีวนะจากธรรมชาติ ตลอดจนต้านทานฤทธิ์ของสารพิษในสภาพแวดล้อม
• ต่อต้านอนุมูลอิสระ (แอนตี้ออกซิแดนท์) สาเหตุการเสื่อมของเซลล์และอวัยวะต่างๆ เช่น ต้อกระจก หลอดเลือดอุดตัน กรดไขข้อ ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ รวมถึงมะเร็ง
• ช่วยให้ผิวพรรณยืดหยุ่นกระชับ บำรุงรักษาเหงือก ฟันและกระดูกให้แข็งแรง
• ช่วยทำให้อสุจิแข็งแรงและเคลื่อนไหวได้ดี
• เพิ่มการดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่ร่างกายและเสริมสร้างคอลาเจนในกระดูก
**เนื่องจากร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์วิตามินซีได้เองจึงจำเป็นต้องบริโภคเข้าไปเท่านั้น**
สารสกัดจากโรสแมรี่( Rosemary ) เป็นพืชสมุนไพรในแถบอเมริกาเหนือที่ให้สารสกัดจากธรรมชาติ ชื่อว่ากรดโรสมารินิค( Rosemarinic Acid ) และพืชผักธรรมชาติ ได้แก่ ผงขมิ้น บลอคโคลี่ กะหล่ำ แครอท มะเขือเทศ ใบเสจ กานพลู ให้ผลในการทำลายฤทธิ์ของอนุมูลอิสระและต่อต้านการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นในร่างกาย ซึ่งเป็นตัวทำลายเซลล์ในร่างกายและเกิดขึ้นในร่างกายตลอดเวลาจากสิ่งแวดล้อมภายนอก และระบบการทำงานของร่างกายทำให้ยับยั้งความเสื่อมของเซลล์และอวัยวะต่างๆในร่างกาย เช่น ผิวพรรณที่เหี่ยวย่นก่อนวัย ความจำเสื่อม สมรรถภาพเสื่อม หลอดเลือดหัวใจแข็งตัว และยับยั้งความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพในระยะยาว
สารสกัดจากผลทับทิม ช่วยสมานผิว ลดการอักเสบ ช่วยปรับปรุงระบบการฟอกและไหลเวียนของเลือด ทำให้มีเลือดฝาด ช่วยลดการสะสมของไขมันในผนังหลอดเลือดและยังช่วยบำรุงตับด้วย
สารสกัดจากเปลือกสน( Pine Bark Extract ) ที่พบในฝรั่งเศสเป็นแหล่งของสาร Oligomeric Proanthrocycanidins ( OPC ) จึงช่วยเสริมการทำงานของสารสกัดจากเมล็ดองุ่นในการต้านอนุมูลอิสระและปกป้องเซลล์ผิว โดยลดปฏิกิริยาของผิวหนังเมื่อถูกแสงแดด ลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน ลดขนาดและความเข้มของฝ้า กระ และช่วยปรับสภาพผิวให้กลับขาวใสขึ้น เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงที่วงการแพทย์ทั่วโลกยอมรับ
สารสกัดจากเมล็ดองุ่น( Grape Seed Extract )สารสำคัญ Oligomeric Proanthrocycanidins ( OPC )ในเมล็ดองุ่นจะมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและปกป้องหลอดเลือดฝอยที่ผิวหนัง จากการทำลายของอนุมูลอิสระ และยังสามารถช่วยยับยั้งเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการสลายเส้นใยคอลาเจนและอิลาสติน ซึ่งเป็นเส้นใยที่มีความสำคัญต่อสุขภาพและความยืดหยุ่นของผิว ทำให้เนื้อเยื่อโครงสร้างผิวแข็งแรง ช่วยให้ระบบหมุนเวียนโลหิตในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น ส่งผลให้สารอาหารต่างๆไปหล่อเลี้ยงเซลล์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิว คืนความอ่อนเยาว์ให้เซลล์ผิวทั่วเรือนร่าง ลดการเกิดริ้วรอย ลดความหยาบกร้าน หมองคล้ำ ทำให้ผิวเรียบเนียน
โคเอนไซม์คิวเทน( Coenzyme Q 10 )เป็นสารที่จำเป็นสำหรับกระบวนการสร้างพลังงานให้แก่เซลล์ต่างๆ รวมทั้งเซลล์ผิวด้วย และยังช่วยส่งเสริมให้เซลล์ผิวสร้าง Glycosaminoglycans ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของผิวและโปรตีนที่จำเป็นต่อการสร้างคอลาเจน ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นแข็งแรง และอุ้มน้ำได้มากขึ้นส่งผลให้ผิวมีความชุ่มชื้นดูมีชีวิตชีวาสดใส ช่วยลดเลือนริ้วรอยแห่งวัยทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์นอกจากนี้( Coenzyme Q 10 )ยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีที่จะช่วยปกป้องเซลล์ผิวไม่ให้โดนทำลายโดยอนุมูลอิสระ
กรดอัลฟา-ไลโปอิกเป็นสารอาหารประเภทหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายวิตามิน โดยทำหน้าที่เป็น Coenzyme ในขบวนการเผาผลาญน้ำตาลและสารอาหารอื่นๆ ให้เป็นพลังงานโดยปกติร่างกายเราจะพบว่ามีกรดอัลฟาไลโปอิกอยู่แล้วในปริมาณคงที่ ซึ่งในบางสภาวะอาจไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย แหล่งอาหารธรรมชาติที่พบว่ามีกรดอัลฟาไลโปอิกในปริมาณสูงๆได้แก่ เนื้อแดง ยีสต์ เครื่องใน เช่น หัวใจ ตับ เป็นต้น และพบปริมาณน้อยในผักผลไม้บางชนิด เช่น มันฝรั่ง แครอท ผักโขม จากการวิจัยทางการแพทย์พบว่า กรดอัลฟาไลโปอิก เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์แรง ช่วยปกป้องเซลล์เนื้อเยื่อของร่างกาย จากการเผาผลาญน้ำตาลเป็นพลังงาน จึงช่วยให้การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดเป็นไปได้ด้วยดี
สังกะสี( Zinc )สังกะสีมีความสำคัญต่อการสร้างโปรตีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างเส้นใยคอลาเจนและยังแกี่ยวกับการรักษาระดับวิตามินเอ และการใช้วิตามินเอในร่างกายด้วย วิตามินเอและสังกะสีจะทำหน้าที่ร่วมกันในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ผิว อีกทั้งยังอาจช่วยในการรักษาสิว และสมานแผล นอกจากนี้สังกะสียังเป็นองค์ประกอบของเอนไซม์ Superoxide Dismutase: SOD ซึ่งเป็นระบบการต้านอนุมูลอิสระระบบหนึ่งในผิวหนัง ทั้งนี้ร่างกายจำเป็นต้องได้รับสังกะสีอย่างเพียงพอ เพื่อให้เอนไซม์ดังกล่าวสามารถทำงานได้อย่างปกติ
ซิลิเนียม( Selenium )ลดการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว ทำงานเสริมกับวิตามินซี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของแอล-กลูตาไธโอน( L-Giutathione ) ป้องกันการเสื่อมของตับอ่อน ทำให้ตับอ่อนผลิตอินซูลินได้ดีขึ้น ทำให้ร่างกายใช้น้ำตาลได้ดีขึ้น ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญของร่างกาย นอกจากนี้ซิลิเนียมยังเป็นสารต้านออกซิแดนซ์ตามธรรมชาติ เพื่อรักษาเนื้อเยื่อต่างๆให้มีความยืดหยุ่นและช่วยให้หัวใจทำหน้าที่ได้ดีขึ้น ช่วยในการผลิตสาร prostaglandin เพื่อป้องกันไม่ให้ความดันเลือดสูงและเป็นโรคหัวใจ ซิลิเนียมยังสำคัญในการช่วยไม่ให้เป็นหมัน โดยช่วยให้เชื้ออสุจิมีความแข็งแรง ช่วยเพิ่มความต้านทานต่อการเป็นโรค อาจป้องกันการแก่ก่อนวัย โดยไปยับยั้งการสร้างอนุมูลอิสระและยังช่วยป้องกันร่างกายจากรังสี แหล่งอาหารที่ดีที่สุดของซิลิเนียมคือ อาหารทะเล ตับ และข้าว
แมงกานีส อะมิโน แอซิด คีเลต( Manganese Amino Acid Chelated )เป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการพัฒนากระดูกอและเนื้อเยื่อต่างๆ ให้เป็นปกติ การทำให้ตับอ่อนทำงานได้อย่างปกติ จึงช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด กระตุ้นให้ร่างกายใช้พลังงานอย่างรวดเร็ว ทำให้ร่างกายกระฉับกระเฉง สามารถออกกำลังกายหรือทำงานได้นานกว่าเดิมโดยไม่อ่อนเพลีย แหล่งอาหารที่ดีที่สุดของแมงกานีส คือ ข้าวต่างๆ ผลไม้เปลือกแข็งและผลไม้
คอปเปอร์ อะมิโน แอซิด คีเลต( Copper Amino Chelated)คอปเปอร์ หรือทองแดง ช่วยเผาผลาญและยังจำเป็นเพื่อให้เหล็กดูดซึม และนำไปใช้ประโยชน์ในการสร้างฮีโมโกบิล คอปเปอร์ช่วยในการผลิตกรดนิวคลีอิค คือ อาร์ เอ็น เอ คอปเปอร์จำเป็นสำหรับการเผาผลาญโปรตีน และการสร้างสีของผิวและสีผม เมื่อคอปเปอร์ร่วมกับวิตามินซี จะช่วยในการสร้างอิลาสติน คอปเปอร์มีอยู่ในระบบเอ็นไซม์ต่างๆที่สำคัญในระบบโครงสร้างเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน และการผลิตฟอสโฟไลปิค แหล่งอาหารที่ดีที่สุดของทองแดงคือ หอยนางรม ผลไม้เปลือกแข็ง เมล็ดพืช และถั่ว
ปริมาณสุทธิ 30 แคปซูล
ทะเบียน อย. 73-1-32023-1-0019
ขนาดรับประทาน วันละ 1 เม็ด ก่อนนอน (ถ้าทานต่อเนื่องจะทำให้ผิวพรรณกระจ่างใสขึ้นและคงสภาพผิว)
ส่วนประกอบสำคัญ :
คอลลาเจน แอล- กลูตาไธโอน วิตามินซี สารสกัดจากโรสแมรี่ ผลทับทิม เปลือกสนฝรั่งเศส เมล็ดองุ่น โคเอ็นไซ์ม์คิวเท็น
รับประทาานวันละ :1 แคปซูล ก่อนนอน
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร พอลลีน่า ลิฟท์ แอนด์ ไวท์
การรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่มุ่งเน้นเพื่อการดูแลผิวแทนคุณ เป็นวิธีที่ง่ายและปลอดภัยและได้ผลดี ด้วยหลักการ Synergist การผสมผสานที่ลงตัว ของสารสกัดจากธรรมชาติที่ล้วนแล้วแต่มีคุณสมบัติในการช่วยชะลอและฟื้นฟูผิวที่ถูกทำลาย และเสื่อมสภาพลงตามอายุ ด้วยสารสกัดมากมายที่ล้วนแล้วแต่ส่งเสริมการทำงานของผิวพรรณ โดยรวมเพื่อการเผยผิวขาวกระจ่างใส เนียนกระชับไร้ริ้วรอย
นี่คือเหตุผลและเป็นอีกทางเลือกที่เราจะให้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเป็นผู้ช่วยของเรา
สาเหตุที่ทำให้ผิวหนังเสื่อมสภาพ แบ่งเป็น 2 ประการใหญ่ๆ คือ
1. ความเสื่อมของผิวหนังตามวัย
2. ความเสื่อมของผิวหนังจากสิ่งแวดล้อมความเสื่อมของผิวหนังตามวัย
เมื่อคนเรามีอายุเพิ่มมากขึ้นร่างกายทุกส่วนย่อมเสื่อมสภาพลงแต่ความเสื่อมสภาพตามวัยของผิวหนังเป็นความเสื่อมที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนดังนี้
• ผิวหนังชั้นนอก ( หนังกำพร้า ) เป็นผิวหนังที่อยู่ชั้นนอกสุด ประกอบด้วย เซลล์ผิวที่ตายแล้ว( ขี้ไคล ) ทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้เชื้อโรคภายนอกเข้าสู่ร่างกาย รักษาความชุ่มชื้นให้กับผิวหนังและรักษาอุณหภูมิในร่างกายให้คงที่เมื่ออายุมากขึ้นชั้นหนังกำพร้าจะเริ่มบางลง ทำให้ผิวหยาบกระด้างเกิดแผลถลอกและติดเชื้อโรคได้ง่าย นอกจากนี้เวลาที่ผิวโดนแสงแดดจะไปกระตุ้นเซลล์เมลาโนไซด์ที่อยู่ในผิวหนังชั้นนอกให้ผลิตเม็ดสีเมลานินซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำบนใบหน้า
• ผิวหนังชั้นใน ( หนังแท้ ) ชั้นนี้อยู่ใต้หนังกำพร้า ประกอบด้วย เส้นเลือด เส้นประสาท ต่อมเหงื่อ ต่อมไขมัน เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน คอลาเจน อิลาสติน เมื่อมีอายุมากขึ้นทั้งต่อมไขมัน ต่อมเหงื่อ จะลดจำนวนและขนาดลง ทำให้เหงื่อและไขมันออกน้อยลง ผิวจึงแห้งมากขึ้น นอกจากนี้เส้นผม เส้นขนก็ลดขนาดและจำนวนลง ทำให้เส้นผมบางลง เล็บก็เปราะแตกหักง่าย การสร้างคอลาเจนและอิลาสตินก็ลดลงด้วย ทำให้ผิวหนังเกิดริ้วรอย เหี่ยวย่นและหย่อนยาน
• ชั้นไขมัน ชั้นนี้ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ช่วยลดแรงกระทบกระแทกแก่ร่างกาย เมื่อมีอายุมากขึ้นจะมีการสะสมของไขมันส่วนเกินที่บริเวณหน้าท้อง เอว สะโพก ต้นขา ใต้คางและต้นแขนแต่ชั้นไขมันที่บริเวณส้นเท้าจะบางลง ทำให้ส้นเท้าแตกได้ง่ายขึ้น
ความเสื่อมของชั้นผิวหนังจากสิ่งแวดล้อม เป็นสาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้เกิดความเสื่อมของผิวหนังดังนี้• แสงแดด เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้แก่ก่อนวัยอันควร เช่นทำให้เป็นกระ ฝ้า จุดด่างดำ รอยย่น มะเร็งผิวหนัง จึงต้องพยายามหลีกเลี่ยงและหาวิธีป้องกันแสงแดด เช่น ทาครีมกันแดด สวมหมวก สวมแว่นตาหรือกางร่ม
• สารเคมีควันพิษ ทำให้ผิวหนังสกปรก รูขุมขนอุดตัน สบู่ที่แรงเกินไปทำให้ผิวเสียได้
• อากาศอุณหภูมิ อากาศที่ร้อนอาจทำให้ผิวมันเป็นสิวได้ง่าย ส่วนอากาศแห้งและเย็นทำให้ผิวหนังแห้งและหยาบ เป็นผื่นคัน ลอกเป็นขุย ปากแห้งแตก
• ความเครียด ผิวก็เป็นอวัยวะแรกที่แสดงสัญญาณความเครียด ผิวจะดูหมองคล้ำและทำให้เกิดรอยย่นตรงหัวคิ้ว หน้าผาก และรอบดวงตา
• การอดนอน ทำให้ผิวหนังแห้ง เกิดริ้วรอย และรอยคล้ำใต้ตา การนอนอย่างเพียงพอเป็นสิ่งที่สำคัญเพราะขณะที่นอนหลับ ร่างกายและผิวของเราจะมีการซ่อมแซมและกลับมากระชุ่มกระชวยอีกครั้ง
• การสูบบุหรี่ การสูบบุหรี่ก่อให้เกิดผลในด้านลบกับผิวหลายประการ เนื่องจากสารนิโคตินในบุหรี่ทำให้หลอดเลือดตีบ ขวางกั้นการไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงผิวชั้นนอก การสูบบุหรี่ยังทำลายคอลาเจนที่มีหน้าที่รักษาความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของผิว อีกทั้งทำให้ระบบการรักษาบาดแผลช้าลงด้วย
ส่วนประกอบสำคัญ
• คอลาเจน 200 มก.
• แอล-กลูตาไธโอน 70 มก.
• วิตามิน ซี 25 มก.
• สารสกัดจากโรสแมรี่ 20 มก.
• สารสกัดจากผลทับทิม 20 มก.
• สารสกัดจากเปลือกสน 20 มก.
• สารสกัดจากเมล็ดองุ่น 20 มก.
• โคเอ็นไซม์ คิวเทน 10 มก.
• กรดอัลฟาไลโปอิค 10 มก.
• ซิงค์คีเลต 16 มก.• ซิลิเนียม คีเลต 7 มก.
• คอปเปอร์ คีเลต 3.5 มก.
• แมงกานีส คีเลต 0.55 มก.
คอลาเจน( Collagen )คืออาหารเสริมโปรตีนที่มีคุณภาพสูง ซึ่งมีส่วนผสมของสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพผิวเมื่อร่างกายได้รับสารอาหารในปริมาณที่เหมาะสม จะทำให้ผิวหนังมีความแข็งแรง ทนต่อสภาพถูกทำลายและยับยั้งการเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น วิตามินซี เป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับการผลิตและรักษาเนื้อเยื่อคอลาเจนการเพิ่มวิตามินซีในอาหารเสริมนี้ จะช่วยยับยั้งการเกิดริ้วรอยแห่งวัยได้โดย วิตามินซีจะเป็นตัวกำจัดอนุมูลอิสระในร่างกายหรือสิ่งสกปรกที่เกิดจากสภาพแวดล้อม สารเคมี อากาศและควันบุหรี่ การรับประทานอาหารเสริมคอลาเจนจะช่วยเพิ่มสารอาหารที่จำเป็นในการสร้างเนื้อเยื่อและช่วยชะลอความแก่เนื่องจากอาหารเสริมคอลาเจนแตกตัวและถูกดูดซึมได้อย่างรวดเร็ว อาหารเสริมคอลาเจนเหมาะสำหรับสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีที่ต้องการรักษาความอ่อนเยาว์และบำรุงผิวพรรณที่ถูกทำลายหรือเสื่อมสภาพลงเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของอายุ
แอล-กลูตาไธโอน( L-Glutathione )ร่วมกับเปลือกสนมาริไทม์ฝรั่งเศส และกรดอัลฟาไลโปอิก ( Alpha Lipoic Acid ) ซึ่งจะช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานินที่ผิวมากผิดปกติ ช่วยลดความหมองคล้ำของผิวและยังสามารถต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุของฝ้า กระ จุดด่างดำ ด้วยคุณค่าสารอาหารธรรมชาติทั้ง 3 นี้ ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสขึ้น ลดเลือนริ้วรอยหมองคล้ำและจุดด่างดำได้อย่างเป็นธรรมชาติ รวมถึงผิวทั่วเรือนร่าง เช่นใต้วงแขน บริเวณขอบชั้นใน( Bikini line )ริมฝีปาก และบริเวณหัวนมให้ขาวอมชมพู
วิตามินซี
• กระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาวและแอนตี้บอดี้ เพิ่มภูมิคุ้มกัน ป้องกันโรคหวัด ภูมิแพ้ ติดเชื้อง่าย เป็นยาปฏิชีวนะจากธรรมชาติ ตลอดจนต้านทานฤทธิ์ของสารพิษในสภาพแวดล้อม
• ต่อต้านอนุมูลอิสระ (แอนตี้ออกซิแดนท์) สาเหตุการเสื่อมของเซลล์และอวัยวะต่างๆ เช่น ต้อกระจก หลอดเลือดอุดตัน กรดไขข้อ ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ รวมถึงมะเร็ง
• ช่วยให้ผิวพรรณยืดหยุ่นกระชับ บำรุงรักษาเหงือก ฟันและกระดูกให้แข็งแรง
• ช่วยทำให้อสุจิแข็งแรงและเคลื่อนไหวได้ดี
• เพิ่มการดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่ร่างกายและเสริมสร้างคอลาเจนในกระดูก
**เนื่องจากร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์วิตามินซีได้เองจึงจำเป็นต้องบริโภคเข้าไปเท่านั้น**
สารสกัดจากโรสแมรี่( Rosemary ) เป็นพืชสมุนไพรในแถบอเมริกาเหนือที่ให้สารสกัดจากธรรมชาติ ชื่อว่ากรดโรสมารินิค( Rosemarinic Acid ) และพืชผักธรรมชาติ ได้แก่ ผงขมิ้น บลอคโคลี่ กะหล่ำ แครอท มะเขือเทศ ใบเสจ กานพลู ให้ผลในการทำลายฤทธิ์ของอนุมูลอิสระและต่อต้านการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นในร่างกาย ซึ่งเป็นตัวทำลายเซลล์ในร่างกายและเกิดขึ้นในร่างกายตลอดเวลาจากสิ่งแวดล้อมภายนอก และระบบการทำงานของร่างกายทำให้ยับยั้งความเสื่อมของเซลล์และอวัยวะต่างๆในร่างกาย เช่น ผิวพรรณที่เหี่ยวย่นก่อนวัย ความจำเสื่อม สมรรถภาพเสื่อม หลอดเลือดหัวใจแข็งตัว และยับยั้งความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพในระยะยาว
สารสกัดจากผลทับทิม ช่วยสมานผิว ลดการอักเสบ ช่วยปรับปรุงระบบการฟอกและไหลเวียนของเลือด ทำให้มีเลือดฝาด ช่วยลดการสะสมของไขมันในผนังหลอดเลือดและยังช่วยบำรุงตับด้วย
สารสกัดจากเปลือกสน( Pine Bark Extract ) ที่พบในฝรั่งเศสเป็นแหล่งของสาร Oligomeric Proanthrocycanidins ( OPC ) จึงช่วยเสริมการทำงานของสารสกัดจากเมล็ดองุ่นในการต้านอนุมูลอิสระและปกป้องเซลล์ผิว โดยลดปฏิกิริยาของผิวหนังเมื่อถูกแสงแดด ลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน ลดขนาดและความเข้มของฝ้า กระ และช่วยปรับสภาพผิวให้กลับขาวใสขึ้น เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงที่วงการแพทย์ทั่วโลกยอมรับ
สารสกัดจากเมล็ดองุ่น( Grape Seed Extract )สารสำคัญ Oligomeric Proanthrocycanidins ( OPC )ในเมล็ดองุ่นจะมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและปกป้องหลอดเลือดฝอยที่ผิวหนัง จากการทำลายของอนุมูลอิสระ และยังสามารถช่วยยับยั้งเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการสลายเส้นใยคอลาเจนและอิลาสติน ซึ่งเป็นเส้นใยที่มีความสำคัญต่อสุขภาพและความยืดหยุ่นของผิว ทำให้เนื้อเยื่อโครงสร้างผิวแข็งแรง ช่วยให้ระบบหมุนเวียนโลหิตในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น ส่งผลให้สารอาหารต่างๆไปหล่อเลี้ยงเซลล์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิว คืนความอ่อนเยาว์ให้เซลล์ผิวทั่วเรือนร่าง ลดการเกิดริ้วรอย ลดความหยาบกร้าน หมองคล้ำ ทำให้ผิวเรียบเนียน
โคเอนไซม์คิวเทน( Coenzyme Q 10 )เป็นสารที่จำเป็นสำหรับกระบวนการสร้างพลังงานให้แก่เซลล์ต่างๆ รวมทั้งเซลล์ผิวด้วย และยังช่วยส่งเสริมให้เซลล์ผิวสร้าง Glycosaminoglycans ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของผิวและโปรตีนที่จำเป็นต่อการสร้างคอลาเจน ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นแข็งแรง และอุ้มน้ำได้มากขึ้นส่งผลให้ผิวมีความชุ่มชื้นดูมีชีวิตชีวาสดใส ช่วยลดเลือนริ้วรอยแห่งวัยทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์นอกจากนี้( Coenzyme Q 10 )ยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีที่จะช่วยปกป้องเซลล์ผิวไม่ให้โดนทำลายโดยอนุมูลอิสระ
กรดอัลฟา-ไลโปอิกเป็นสารอาหารประเภทหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายวิตามิน โดยทำหน้าที่เป็น Coenzyme ในขบวนการเผาผลาญน้ำตาลและสารอาหารอื่นๆ ให้เป็นพลังงานโดยปกติร่างกายเราจะพบว่ามีกรดอัลฟาไลโปอิกอยู่แล้วในปริมาณคงที่ ซึ่งในบางสภาวะอาจไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย แหล่งอาหารธรรมชาติที่พบว่ามีกรดอัลฟาไลโปอิกในปริมาณสูงๆได้แก่ เนื้อแดง ยีสต์ เครื่องใน เช่น หัวใจ ตับ เป็นต้น และพบปริมาณน้อยในผักผลไม้บางชนิด เช่น มันฝรั่ง แครอท ผักโขม จากการวิจัยทางการแพทย์พบว่า กรดอัลฟาไลโปอิก เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์แรง ช่วยปกป้องเซลล์เนื้อเยื่อของร่างกาย จากการเผาผลาญน้ำตาลเป็นพลังงาน จึงช่วยให้การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดเป็นไปได้ด้วยดี
สังกะสี( Zinc )สังกะสีมีความสำคัญต่อการสร้างโปรตีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างเส้นใยคอลาเจนและยังแกี่ยวกับการรักษาระดับวิตามินเอ และการใช้วิตามินเอในร่างกายด้วย วิตามินเอและสังกะสีจะทำหน้าที่ร่วมกันในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ผิว อีกทั้งยังอาจช่วยในการรักษาสิว และสมานแผล นอกจากนี้สังกะสียังเป็นองค์ประกอบของเอนไซม์ Superoxide Dismutase: SOD ซึ่งเป็นระบบการต้านอนุมูลอิสระระบบหนึ่งในผิวหนัง ทั้งนี้ร่างกายจำเป็นต้องได้รับสังกะสีอย่างเพียงพอ เพื่อให้เอนไซม์ดังกล่าวสามารถทำงานได้อย่างปกติ
ซิลิเนียม( Selenium )ลดการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว ทำงานเสริมกับวิตามินซี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของแอล-กลูตาไธโอน( L-Giutathione ) ป้องกันการเสื่อมของตับอ่อน ทำให้ตับอ่อนผลิตอินซูลินได้ดีขึ้น ทำให้ร่างกายใช้น้ำตาลได้ดีขึ้น ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญของร่างกาย นอกจากนี้ซิลิเนียมยังเป็นสารต้านออกซิแดนซ์ตามธรรมชาติ เพื่อรักษาเนื้อเยื่อต่างๆให้มีความยืดหยุ่นและช่วยให้หัวใจทำหน้าที่ได้ดีขึ้น ช่วยในการผลิตสาร prostaglandin เพื่อป้องกันไม่ให้ความดันเลือดสูงและเป็นโรคหัวใจ ซิลิเนียมยังสำคัญในการช่วยไม่ให้เป็นหมัน โดยช่วยให้เชื้ออสุจิมีความแข็งแรง ช่วยเพิ่มความต้านทานต่อการเป็นโรค อาจป้องกันการแก่ก่อนวัย โดยไปยับยั้งการสร้างอนุมูลอิสระและยังช่วยป้องกันร่างกายจากรังสี แหล่งอาหารที่ดีที่สุดของซิลิเนียมคือ อาหารทะเล ตับ และข้าว
แมงกานีส อะมิโน แอซิด คีเลต( Manganese Amino Acid Chelated )เป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการพัฒนากระดูกอและเนื้อเยื่อต่างๆ ให้เป็นปกติ การทำให้ตับอ่อนทำงานได้อย่างปกติ จึงช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด กระตุ้นให้ร่างกายใช้พลังงานอย่างรวดเร็ว ทำให้ร่างกายกระฉับกระเฉง สามารถออกกำลังกายหรือทำงานได้นานกว่าเดิมโดยไม่อ่อนเพลีย แหล่งอาหารที่ดีที่สุดของแมงกานีส คือ ข้าวต่างๆ ผลไม้เปลือกแข็งและผลไม้
คอปเปอร์ อะมิโน แอซิด คีเลต( Copper Amino Chelated)คอปเปอร์ หรือทองแดง ช่วยเผาผลาญและยังจำเป็นเพื่อให้เหล็กดูดซึม และนำไปใช้ประโยชน์ในการสร้างฮีโมโกบิล คอปเปอร์ช่วยในการผลิตกรดนิวคลีอิค คือ อาร์ เอ็น เอ คอปเปอร์จำเป็นสำหรับการเผาผลาญโปรตีน และการสร้างสีของผิวและสีผม เมื่อคอปเปอร์ร่วมกับวิตามินซี จะช่วยในการสร้างอิลาสติน คอปเปอร์มีอยู่ในระบบเอ็นไซม์ต่างๆที่สำคัญในระบบโครงสร้างเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน และการผลิตฟอสโฟไลปิค แหล่งอาหารที่ดีที่สุดของทองแดงคือ หอยนางรม ผลไม้เปลือกแข็ง เมล็ดพืช และถั่ว
ปริมาณสุทธิ 30 แคปซูล
ทะเบียน อย. 73-1-32023-1-0019
ขนาดรับประทาน วันละ 1 เม็ด ก่อนนอน (ถ้าทานต่อเนื่องจะทำให้ผิวพรรณกระจ่างใสขึ้นและคงสภาพผิว)
พอลลีน่า เคดี (s201)
เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้คัดสรรพืชหรือสมุนไพรต่าง ๆ ที่มีสาร
Phytonutrients มากที่สุดและจัดได้ว่าเป็นสุดยอดสมุนไพร มาเป็นส่วนประกอบที่จะให้
Phytonutrients มากที่สุดและจัดได้ว่าเป็นสุดยอดสมุนไพร มาเป็นส่วนประกอบที่จะให้
ประโยชน์โดยรวม ดังนี้
- ช่วยเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง
- ช่วยเสริมสมรรถภาพทุกด้านให้แข็งแรง
- ช่วยเสริมสมรรถภาพทุกด้านให้แข็งแรง
- ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกายต่อเชื้อโรคและสารพิษ
- ทำให้กระฉับกระเฉง อดทน และมีสมาธิในการทำงาน
- ทำให้คุณสวยจากภายใน ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สดใสดูดีอยู่เสมอ แม้กาลเวลาจะล่วงเลยผ่านไป
Phytonutrients & Phytochemicals คืออะไร?
" Phytonutrient " หมายถึงสารประกอบอินทรีย์ที่พืชสังเคราะห์ขึ้นและเก็บสะสมไว้ที่ส่วนต่างๆ แต่ไม่ได้หมายถึง สารอาหารพวกคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน วิตามิน หรือเกลือแร่
" Phytonutrient " เป็นสารประกอบที่ให้ผลดีต่อสุขภาพของคนเรา ซึ่งบางทีก็เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "Phytochemical "Phytonutrients ได้แก่สารกลุ่มใดบ้าง ?
" Phytonutrient " หมายถึงสารประกอบอินทรีย์ที่พืชสังเคราะห์ขึ้นและเก็บสะสมไว้ที่ส่วนต่างๆ แต่ไม่ได้หมายถึง สารอาหารพวกคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน วิตามิน หรือเกลือแร่
" Phytonutrient " เป็นสารประกอบที่ให้ผลดีต่อสุขภาพของคนเรา ซึ่งบางทีก็เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "Phytochemical "Phytonutrients ได้แก่สารกลุ่มใดบ้าง ?
-แคโรทีนอยด์ ( Carotenoids )
-โปลีฟีนอล : ฟลาโวนอยด์ ( Polyphenols : Flavonoids )
-อิโนซิทอล ฟอสเฟต : ไฟเตท ( Inositol Phosphates : Phytates )
-ลิกนิน : ไฟโตเอสโตรเจน ( Lignans : Phytoestrogens )
-ธโอไซยาเนตและอินโดล ( Isothiocyanates and Indoles )
-ฟีนอลและไซคลิก คอมปาวน์ด ( Phenols and Cyclic Compounds )
-ซาโปนิน ( Saponins )
-ซัลไฟด์และไธโอน ( Sulfides and Thiolds )
-เทอปีน ( Terpenes )
-ใยอาหาร ( Dietary fiber )
Phytonutrients มีประโยชน์อย่างไร?
1. ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่
2. ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
3. ช่วยให้นอนหลับและคลายเครียด
4. ช่วยป้องกันและรักษาโรคมะเร็ง
5. ช่วยซ่อมแซม DNA ที่ถูกทำลายจากสารพิษ บุหรี่ แอลกอฮอล์
6. รักษาสมดุลของโฮร์โมนและเอ็นไซม์
7. ช่วยปกป้องหัวใจและระบบไหลเวียนของโลหิต
8. ช่วยรักษาความยืดหยุ่นและความชุ่มชื้นของผิวพรรณ
9. ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางร่างกายและทางเพศ
Phytonutrients ร่างกายได้รับเพียงพอหรือไม่? ร่างกายจะได้รับ จากการบริโภคอาหารพวกผักและผลไม้ ซึ่งควรต้องมีการค้นค้วาเพิ่มเติมว่าผักหรือผลไม้ชนิดใดมีสารสังเคราะห์ใดเป็นพิเศษและต้องใส่ใจบริโภคเป็นประจำอย่างต่อเนื่องและมีปริมาณมากพอจึงจะส่งผลดีต่อสุขภาพยิ่งๆขึ้นไป แต่ในยุคที่ต้องแข่งกับเวลานี้พบว่าเราไม่สามารถได้รับสาร Phytonutrients อย่างเพียงพอจากอาหารปกติประจำวันของเราเพียงอย่างเดียว
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับทุกคน นอกเหนือจากการรับประทานอาหารตามปกติของตนเอง
พอลลีน่าเคดี
ส่วนประกอบที่สำคัญ
ปัญจขันธ์ ( Gynostemma Pentaphyllum)
ชื่อภาษาอังกฤษ Miracle grass (หญ้ามหัศจรรย์) ชื่อจีน คือ เจียวกูหลานหรือเซียนเฉ่า ( หญ้าอมตะ) ในปัญจขันธ์มีสาร จิปพีโนไซด์ (Gypenoside) มากกว่า 80 ชนิด บางชนิดเหมือนที่พบในโสม จึงมีสรรพคุณคล้ายโสมดังนี้
ชื่อภาษาอังกฤษ Miracle grass (หญ้ามหัศจรรย์) ชื่อจีน คือ เจียวกูหลานหรือเซียนเฉ่า ( หญ้าอมตะ) ในปัญจขันธ์มีสาร จิปพีโนไซด์ (Gypenoside) มากกว่า 80 ชนิด บางชนิดเหมือนที่พบในโสม จึงมีสรรพคุณคล้ายโสมดังนี้
-มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ทำให้กระชุ่มกระชวยและฟื้นฟูความเป็นหนุ่มสาว
-ป้องกันผิวไม่ให้ถูกทำลายจากรังสี UV
-Adaptogenic herb มีฤทธิ์แรงมาก
-ช่วยลดความดันเลือด
-ลดไตรกลีเซอร์ และคลอเรสเตอรอลชนิดเลว แต่เพิ่มชนิดดี
-ทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจได้สะดวก จึงช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ
-ยับยั้งการเกาะตัวกันของเกร็ดเลือด ป้องกันและรักษาหลอดเลือดแข็งตัว
-ช่วยลดน้ำหนัก เร่งการเผาผลาญอาหาร ขัดขวางการเปลี่ยนน้ำตาลไปเป็นไขมัน
-เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ โดยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดบริเวณอัณฑะ
-ป้องกันตับจากสารพิษ และต้านการอักเสบในโรคกระเพาะ หลอดลมอักเสบ
-เพิ่มการหลั่งอินซูลินทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง ( สารซาโปนิน ชื่อฟาโนไซด์ที่มีฤทธิ์กระตุ้นการหลั่งซูลิน)
-เสริมภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น ช่วยให้ผู้ป่วยที่ทำเคมีบำบัดรู้สึกดีขึ้น
-ช่วยให้นอนหลับคลายความวิตกกังวล แต่กระตุ้นผู้ที่ซึมเศร้าให้สดชื่นขึ้น
โสมเกาหลี ( โสมคน ) (Panax ginseng)
"โสมเกาหลี" จัดเป็นสุดยอดสมุนไพร สาร ginsenosides มีฤทธิ์เป็นAdaptogen คือทำให้ร่างกายสามารถทนต่อแรงกดดันจากสภาวะภายนอกได้ดีขึ้น
โสมมีสรรพคุณดังนี้
"โสมเกาหลี" จัดเป็นสุดยอดสมุนไพร สาร ginsenosides มีฤทธิ์เป็นAdaptogen คือทำให้ร่างกายสามารถทนต่อแรงกดดันจากสภาวะภายนอกได้ดีขึ้น
โสมมีสรรพคุณดังนี้
-บำรุงร่างกายและอวัยวะต่าง ๆ เช่น ตับ ไต หัวใจ ม้าม ปอด ทำให้ร่างกายแข็งแรงเสมือนมีเกราะป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ
-บำรุงโลหิต ปรับความดันเลือด และระดับน้ำตาลในเลือดให้ปกติ
-บำรุงประสาท เพิ่มสมาธิ ความจำ และความสามารถในการเรียนรู้
-บรรเทาอาการเครียด ซึมเศร้า นอนไม่หลับ เป็นการสกัดกั้นโรคหรือความเจ็บป่วยที่มีสาเหตุจากความเครียด
-ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศทั้งในหญิงและชาย
-ช่วยบรรเทาอาการข้างเคียงจากเคมีบำบัดและรังสีบำบัด
-ช่วยชะลอความแก่เป็นอายุวัฒนะ
แปะเจียก (Paeonia Iactitlora) มีสารชื่อ Paeoniflorin ซึ่งมีสรรพคุณ
-แก้ปวด ลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ จึงใช้ร่วมกับสมุนไพรอื่นๆเพื่อบรรเทาอาการปวดประจำเดือน ปวดท้อง ปวดศรีษะ
-ช่วยบำรุงโลหิต ลดความดัน ฟอกเลือด
-ห้ามเลือดจากบาดแผล
-แก้ประจำเดือนมามากเกินไป
ตี้อึ้ง/เส็กตี่(Rehmannia glutinosa)รากของตีอึ้งเมื่อผ่านกรรมวิธีการนึ่งหรือตากแดด จะมีสีดำที่เรียกว่า " เส็กตี่ " สารสำคัญ rehmaglutin มีสรรพคุณ คือ
-บำรุงไต
-บำรุงไขกระดูก
-บำรุงทางเพศ
-ช่วยให้ผมดำสลวย
-ใช้บำบัดโรคประสาทอ่อน ฝันเปียก อาการหลั่งเร็วในผู้ชาย
-อาการอ่อนล้า โลหิตจาง วิงเวียน
-หอบ หายใจลำบาก
-สตรีมีประจำเดือนมาไม่ตรงกำหนด เลือดประจำเดือนมีสีจาง ประจำเดือนมาไม่ปกติ
ปัคคี้ (Astragalus membranaceus)
ปัคคี้หรืออึ้งคี้ มีสาระสำคัญคือ Astragaloside มีสรรพคุณคือ
ปัคคี้หรืออึ้งคี้ มีสาระสำคัญคือ Astragaloside มีสรรพคุณคือ
-บำรุงร่างกาย บำรุงโลหิต บำรุงหัวใจ
-บำรุงปอดและม้าม
-เสริมภูมิต้านทานโรค
-ลดความดัน ขับปัสสาวะ แก้อาการบวมน้ำ
-ลดอาการแก้อาการเหงื่อออกมาก
-ช่วยทำให้แผล ฝี หนอง ที่ผิวหนังหายเร็วขึ้น
-บรรเทาอาการข้างเคียงจากเคมีและรังสีบำบัด
ชะเอม (Glycyrrhiza glabra) รากชะเอมมีรสหวาน มีสรรพคุณ
-แก้ไอ ขับเสมหะ ทำให้ชุ่มคอ แก้น้ำลายเหนียว
-บำรุงปอด
-แก้อาการเกร็ง
-แก้ปวดท้อง
-ช่วยสงบประสาท ลดความเครียด
-รักษาแผลในกระเพาะอาหาร
-ช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมน
-ช่วยตับกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย
เก๋ากี้ (Lcium barbarum) มีสรรพคุณ
-บำรุงร่างกาย บำรุงโลหิต
-บำรุงสายตา
-เสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศ
-ลดน้ำตาลในเลือด
-ปรับความดัน ลดไขมัน
-กล่อมประสาทให้หลับสบาย
-ใช้รักษาอาการสายตาเสื่อม ตาบอดกลางคืน
-ปวดหลัง ปวดเอว
-ใช้รักษาโรคเบาหวานได้ผลดีมาก
-มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่
ตังเซียม (Codonopsis pilosula) รากตังเซียม มีสรรพคุณ
-ช่วยปรับการทำงานของกระเพาะอาหาร ปอดและม้ามให้ดีขึ้น
-ช่วยบำรุงเลือดลม ลดความดันโลหิต
-เพิ่มภูมิคุ้มกัน
-ใช้ในผู้ที่มีอาการหายใจลำบาก หน้าซีด กลัวลม
-มีเหงื่อออกมากอันเกิดจากสมรรถภาพการทำงานของปอดเสื่อมลง
-นอกจากนี้ยังเป็นสมุนไพรที่ปลอดภัยจึงใช้บำรุงผู้หญิงที่ตั้งครรภ์และให้นมบุตรได้ดี
พุทราจีน (Zizyphus jujube) เป็นผลไม้ที่มีสรรพคุณ
-ทำให้นอนหลับง่าย
-ช่วยขับปัสสาวะ
-ช่วยเสริมฤทธิ์ให้กับสมุนไพรตัวอื่นๆ
-ทำหน้าที่ประสานฤทธิ์ของสมุนไพรในตำรับให้เข้ากัน
เห็ดหลินจือ (Ganoderma lucidum)เห็ดหลินจือ เป็นยาอายุวัฒนะเชื่อว่าทำให้ผู้บริโภคมีอายุยืนยาว มีสรรพคุณ
-บำรุงร่างกาย
-เพิ่มภูมิคุ้มกัน
-ลดน้ำตาลในเลือด
-ใช้รักษาโรคภูมิแพ้ โรคความดัน โรคกระเพาะ โรคเส้นเลือดอุดตัน โรคหลอดลม
-ช่วยลดคลอเรสเตอรอล
-ต่อต้านการเจริญเติบโตของเนื้องอก
โต่วต๋ง (Eucommia ulmoides) เปลือกโต่วต๋ง มีสรรพคุณ
-เสริมสร้างร่างกาย
-บำรุงตับ บำรุงไต เส้นเอ็น บำรุงครรภ์
-ลดความดันโลหิต
-ลดคลอเรสเตอรอล
-แก้ปวด เมื่อยเอวและข้อต่อต่างๆ ของร่างกาย
-เพิ่มสมรรถภาพทางเพศจึงใช้บำบัดอาการกำลังวังชาถดถอย ฝันเปียก
-ลดความเสี่ยงในการแท้งบุตร ได้ดีมาก
ซิซานดร้า (Schisandra chinensis)ผลซิซานดร้าอุดมไปด้วยสารลิกนิน ชื่อ Schisandrins มีสรรพคุณ
-บำรุงธาตุทั้ง 5
-บำรุงตับ ไต และปอด
-ช่วยเพิ่มสมรรถภาพและความรู้สึกทางเพศทั้งในหญิงและชาย
-เพิ่มการขับน้ำหล่อเลี้ยงในช่องคลอด
-ช่วยตับกำจัดสารพิษ
-เพิ่มสมาธิและความจำ
-ช่วยปกป้องผิวจากลมและแสงแด
-ช่วยฟอกเลือดให้สะอาด
การบริโภคซิซานดร้าอย่างต่อเนื่องจะทำให้ผิวสวย ขาวเรียบเนียน ดูอ่อนกว่าวัย
เมล็ดลูกซัด (Trigonella foenum-graecum) มีสรรพคุณ
เมล็ดลูกซัด (Trigonella foenum-graecum) มีสรรพคุณ
-ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวาน
-ช่วยลดคลอเรสเตอรอล
-บำรุงไต บำรุงทางเพศ
-แก้ปวดหลัง ปวดเอว
-แก้อาการแน่นหน้าอก แน่นท้อง
กระชายดำ (Kaempferia parviflora) มีสรรพคุณ คือ
-บำรุงกำลัง
-บำรุงฮอร์โมนเพศชาย เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ
-แก้ปวดเมื่อย แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม
-แก้ตกขาว แก้สตรีประจำเดือนมาไม่ปกติ
น้ำผึ้ง (Honey)
น้ำผึ้ง ประกอบด้วย กลูโคส ฟรุคโตส ซูโคส วิตามินบี แร่ธาต โปรตีน เอนไซม์ เป็นต้น
น้ำผึ้ง ประกอบด้วย กลูโคส ฟรุคโตส ซูโคส วิตามินบี แร่ธาต โปรตีน เอนไซม์ เป็นต้น
-นำผึ้งเป็นยาบำรุงกำลัง
-ช่วยย่อย ช่วยหล่อลื่นลำไส้
-ขับปัสสาวะ
-ใช้แต่งรสหวาน
ปริมาณสุทธิ 510 ml
ทะเบียน อย. 73-1-32023-1-0022
ขนาดรับประทาน รับประทานครั้งละ 15-30 ml วันละ 1-2 ครั้ง ก่อนอาหาร
วิธีรับประทาน อมไว้ในปาก-ใต้ลิ้นก่อนกลืน เพราะจะช่วยในการดูดซึมไปเลี้ยงสมองได้ดี
คำเตือน
1. เด็ก สตรีมีครรภ์ สตรีที่ให้นมบุตร ไม่ควรรับประทาน
2. ไม่ใช่อาหารสำหรับควบคุมน้ำหนัก
ทะเบียน อย. 73-1-32023-1-0022
ขนาดรับประทาน รับประทานครั้งละ 15-30 ml วันละ 1-2 ครั้ง ก่อนอาหาร
วิธีรับประทาน อมไว้ในปาก-ใต้ลิ้นก่อนกลืน เพราะจะช่วยในการดูดซึมไปเลี้ยงสมองได้ดี
คำเตือน
1. เด็ก สตรีมีครรภ์ สตรีที่ให้นมบุตร ไม่ควรรับประทาน
2. ไม่ใช่อาหารสำหรับควบคุมน้ำหนัก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น