BODY SLIM
FIT&FIRM FOR
MAN AND WOMAN
ฮึด! ฟิตหุ่น...เพื่อสุขภาพที่ดี
พร้อมลุยงานได้เต็มที่
เร่งเผาผลาญไขมัน ลดไขมันส่วนเกิน เสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อ หุ่นเพรียวกระชับทุกสัดส่วน ปลอดภัย
ไม่มี YoYo Effect
เร่งการเผาผลาญไขมัน
แอล –คาร์ พลัส ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมีส่วนประกอบที่สำคัญใน 1 แคปซูล:
-แอล –คาร์นิทีน แอล-ทาร์เทรต 500 มก.
-แอล –ไทโรซีน 50 มก.
-กรดอัลฟา ไลโปอิก 25 มก.
-นิโคตินาไมด์ 5 มก.
-วิตามินบี 6 2 มก.
-โครเมียม พิโคลิเนต 1 มก.(ให้โครเมียม 124 มคก.)
ทะเบียน อย. 73-1-32023-1-0053
กรดอะมิโน แอล-คาร์นิทีน มีหน้าที่เร่งการเผาผลาญไขมันให้เป็นพลังงาน (Fat Burner) ช่วยเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อ ลดไตรกลีเซอไรด์ (TG) และโคเลสเตอรอลตัวร้าย (LDL) เพิ่มโคเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) จึงช่วยป้องกันโรคหัวใจ ลดความเสี่ยงจากโรคหัวใจวาย ช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของเซล์ ทำให้แก่ช้าลง และช่วยให้สามารถออกกำลังกายหรือทำงานได้ทนและนานขึ้น
*รับประทานวันละ 1-2 ครั้ง ครั้งละ 1-3 แคปซูล ก่อนหรือพร้อมอาหารเช้า- กลางวัน*
*ปริมาณการเผาผลาญไขมันข้นอยู่กับกิจกรรมที่ทำหลังรับประทาน เช่น ถ้าทานแล้วไปนอน ก็จะเผาผลาญไขมันได้น้อยกว่าการออกไปเดิน หรือไปแอบิค*
*ผู้ที่กินมังสวิรัติ และผู้ที่ไม่รับประทานเนื้อแดง มีโอกาสขาดสารแอล-คาร์นิทีนได้*
ไพรูเวท พลัส ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
มีส่วนประกอบที่สำคัญใน 1 แคปซูล:
-แคลเซียม ไพรูเวท 500 มก.
-แอล –ไทโรซีน 200 มก.
-กรดอัลฟา ไลโปอิก 25 มก.
-นิโคตินาไมด์ 3.5 มก.
-วิตามินบี 6 1 มก.
-โครเมียม พิโคลิเนต 0.5 มก.(ให้โครเมียม 62 มคก.)
ทะเบียน อย. 73-1-32023-1-0055
สารไพรูเวท มีความจำเป็นต่อกระบวนการเผาผลาญพลังงานในระดับเซลล์ ที่จะทำให้ร่างกายดึงเอาไขมันส่วนเกินออกมาใช้ และยังช่วยเพิ่มการส่งผ่านกลูโคสเข้าสู่เซลล์เพื่อเปลี่ยนให้เป็นพลังงาน ส่งผลให้กล้ามเนื้อได้รับพลังงานในทันทีทันใด ร่างกายจึงรู้สึกสดชื่น มีพลัง สามารถออกกำลังกายหรือทำงานได้นานขึ้นโดยไม่รู้สึกเหนื่อยง่าย อีกทั้งยังเป็นคู่หูกับ “แอล-คาร์นิทีน” ในการทำหน้าที่เร่งการเผาผลาญไขมัน นอกจากนี้ยังช่วยเสริม “แคลเซียม” ให้กระดูกได้อีกด้วย
*รับประทานวันละ 2-3 ครั้ง ครั้งละ 1-3 แคปซูล ก่อนอาหารหรือก่อนออกกำลังกาย 15-30 นาที*
*แคลเซียม ไพรูเวท 500 มก. ให้แคลเซียมประมาณ 93.5 มก.*
โครเมียม พิโคลิเนต (Chromium Picolinate)
โครเมี่ยม มีความจำเป็นต่อขบวนการย่อยสลายโปรตีน ไขมันและคาร์โบไฮเดรต ช่วยในการรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในภาวะปกติ โดยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของอินซูลิน เพิ่มการเปลี่ยนกลูโคสไปใช้เป็นพลังงาน ช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันเก่า ป้องกันการสะสมของไขมันใหม่นอกจากนี้โครเมี่ยมยังจะช่วยเสริมฤทธิ์แอล-คาร์นิทีน ในการลดน้ำหนักเพิ่มมวลกล้ามเนื้ออีกด้วย
ยับยั้งการสะสมไขมัน
ส้มแขก/สารสกัดจากผลส้มแขก(Garcinia)
สารไฮดรอกซี่ ซิตริก แอซิด (Hydroxy citric acid) หรือ HCA ในผลส้มแขก ออกฤทธิ์ยับยั้ง,การทำงานของเอนไซม์ ซิเตรท ไลเอส (Citrate Lyase) ในวงจร Kreb S cycle (วงจรการย่อยสลายกลูโคส) ส่งผลให้น้ำตาลไม่ถูกเปลี่ยนไปเป็นไขมันเก็บสะสมตามส่วนต่างๆของร่างกาย แต่จะถูกเปลี่ยนเป็นไกลโคเจน (Glycogen) เก็บไว้ที่ตับแทนทำให้ไม่รู้สึกหิว ไม่อ่อนเพลียง่าย จึงเป็นการช่วยลดความอยากอาหารในระหว่างลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้สาร HCA ยังไปกระตุ้นให้มีการดึงเอาไขมันที่เก็บสะสมออกมาใช้เป็นพลังงาน ส่งผลให้มีรูปร่างดีขึ้น เอว (พุง) ลดลง รู้สึกอึดอัดน้อยลงโดยน้ำหนักตัวอาจจะไม่ลดลงเร็วมากนัก
ยับยั้งการดูดซึมไขมัน
ไคโตซาน (Chitosan)
เป็นสารโพลีแซคคาไรด์ (Polysaccharide) ที่ได้จากเปลือกของสัตว์ เช่นปู และกุ้ง มีคุณสมบัติเป็นใยอาหาร ที่สามารถดูดจับไขมันซึ่งมีประจุลบ ทำให้ไขมันไม่ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย
ยับยั้งการดูดซึมแป้ง
สารฟาซิโอลามีน (Phaseolamin) ในสารสกัดจากถั่วขาว มีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ อัลฟา อะไมเลส (Alpha amylase) ในลำไส้ ส่งผลให้คาร์โบไฮเดรตหรือแป้งที่รับประทานเข้าไปไม่ถูกย่อยเป็นน้ำตาล จึงไม่ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย แต่จะถูกเปลี่ยนไปเป็นใยอาหารที่ทำให้รู้สึกอิ่มแทน จึงช่วยลดความอยากอาหารไปในตัว เมื่อร่างกายได้รับพลังงานน้อยลง และไม่เพียงพอกับความต้องการในแต่ละวัน จึงหันไปดึงไขมันที่เก็บสะสมไว้ออกมาใช้มากขึ้น ทำให้น้ำหนักลดลงโดยที่ไม่ต้องอดอาหาร ทั้งนี้ปริมาณสารสกัดจากถั่วขาวที่จะช่วยบล็อกแป้งนั้น ต้องมีปริมาณสมดุลกับปริมาณอาหารแป้งที่รับประทานเข้าไปด้วย
*รับประทานครั้งละ 1-2 แคปซูล ก่อนอาหารมื้อหนัก 15-30 นาที*
อินูลิน (Inulin), ไฟบรูโลส (Fibrulose)
เป็นเส้นใยอาหารที่ละลายน้ำได้ มีคุณสมบัติทำให้ระบบการย่อยและดูดซึมอาหารพวกแป้งและน้ำตาลช้าลง เพิ่มการดูดซึมธาตุแคลเซียมและแมกนีเซียม ส่งเสริมให้ร่างกายสังเคราะห์วิตามินบี เสริมภูมิต้านทานโรค และกำจัดสารพิษบางชนิดออกจากร่างกาย
ทำให้อิ่ม ลดความอยากอาหาร
แอล-ไทโรซีน (Tyrosine)
เป็นกรดอะมิโนที่ร่างกายใช้ผลิตฮอร์โมนไทร็อกซิน (Thyroxine) ที่ช่วยเร่งอัตราการเผาผลาญอาหารให้เป็นพลังงาน ช่วยลดไขมันสะสม เป็นสารต้นตอที่ใช้ในการผลิตสารสื่อประสาทหลายชนิดที่ออกฤทธิ์ลดความอยากอาหาร (appetite suppressan) ลดความเครียด ทำให้สมองตื่นตัว ลดอาการหดหู่ ซึมเศร้า นอนไม่หลับ ขี้หลง ขี้ลืม ช่วยให้เซลล์แก่ช้าลง นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มพลังงานทางเพศอีกด้วย
*ขนาดรับประทานวันละ 500-1500 มก.*
โปรตีนสกัดจากถั่วเหลือง (Isolated Soy Protein)
โปรตีนสกัดจากถั่วเหลืองจะทำปฏิกริยากับกรดในกระเพาะได้เป็นสารข้นจำพวกเจลาตินไปเคลือบกระเพาะอาหารเอาไว้ จึงทำให้รู้สึกอิ่มเร็วและอิ่มนานขึ้น จึงมีความอยากอาหารน้อยลง และยังช่วยลดทั้งระดับโคเลสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์ในเลือดได้อีกด้วย
เพิ่มมวลกล้ามเนื้อ กระชับสัดส่วน
คอลลาเจน เปปไทด์ (Callagen Peptide)
คอลลาเจนเป็นโครงสร้างที่มีปริมาณมากที่สุดในร่างกาย แต่เมื่อเรามีอายุเกิน 18 ปี ขึ้นไปการผลิตคอลลาเจนของร่างกายจะลดลง ทำให้เกิดความเสื่อมของโครงสร้างต่างๆ ทำให้ผิวหนังเกิดริ้วรอย ผมเปราะบาง เล็บเปราะ กระดูกพรุน และข้อต่อเสื่อม และในขณะที่เรานอนหลับลึก ร่างกายจะมีการหลั่งโกรก ฮอร์โมน จากต่อมใต้สมอง ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่กระตุ้นกระบวนการซ่อมแซมร่างกาย การนำคอลลาเจน (โปรตีน) ไปซ่อมแซมส่วนต่างๆ ที่มีคอลลาเจนเป็นองค์ประกอบ จะต้องใช้พลังงานจากการเผาผลาญไขมัน ด้วยเหตุนี้จึงมีการนำคอลลาเจนมารับประทานเพื่อผลในการเผาผลาญไขมันส่วนเกิน โดยจะต้องรับประทานก่อนนอน ในขณะท้องว่าง ห่างจากอาหารมื้อสุดท้าย 3 ชั่วโมงขึ้นไป นอกจากทำให้รูปร่างสวยงามขึ้นแล้ว การรับประทานคอลลาเจนอย่างต่อเนื่อง ยังทำให้มีการผลิตเส้นใยคอลลาเจนและกรดไฮยารูโรนิค ใต้ผิวหนังเพิ่มขึ้นส่งผลผิวหนังชุ่มชื้น เรียบเนียนขึ้น ผม เล็บ กระดูก และข้อต่อก็แข็งแรงขึ้นอีกด้วย
*รับประทานวันละ 3-10 กรัม*
เสริมฤทธิ์ เสริมสุขภาพ
อัลฟา ไลโปอิค แอซิด (Alpha Lipoic Acid)
เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์แรง (Super antioxidant) เพราะมีคุณสมบัติพิเศษคือละลายได้ดีทั้งในน้ำและน้ำมัน จึงสามารถซึมผ่านชั้นของไขมันเข้าไปในเซลล์ เนื้อเยื่อและอวัยวะทุกส่วนของร่างกาย ทำให้เซลล์ทุกเซลล์ได้รับการปกป้องจากการถูกทำลายของอนุมูลอิสระที่เกิดจากขบวนการทางชีวเคมีของร่างกาย ช่วยเพิ่มการส่งกลูโคสเข้าสู่เซลล์เพื่อเผาผลาญให้เป็นพลังงาน ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง และที่สำคัญช่วยทำให้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มลดน้ำหนักและบำรุงผิวพรรณมีประสิทธิภาพแบบก้าวกระโดด
วิตามินบี 3 (Nicotinamide), วิตามินบี 6 (Vitamin B6)
ช่วยเร่งขบวนการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน เป็นส่วนสำคัญของขบวนการสร้างโปรตีน สร้างกล้ามเนื้อ ฮอร์โมน เม็ดเลือดแดง เอนไซม์ และสารสื่อประสาทหลายชนิดที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมอารมณ์ ควบคุมความอยากอาหารและการนอนหลับ เนื่องจากวิตามินบี 3 เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ ทำให้ร่างกายไม่สามารถกักเก็บไว้ จำเป็นต้องได้รับจากอาหาร หรือจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทุกวัน
ควรรับประทานในขนาดที่เหมาะสมอย่างต่อเนื่องจะทำให้น้ำหนักค่อยๆ ลดลงและเพื่อให้เห็นผลเร็วทันใจ ควรควบคุมอาหารและหมั่นออกกำลังกาย โดยในช่วง 1 เดือนแรกจะเปลี่ยนไขมันเป็นกล้ามเนื้อ เดือนที่ 2-3 น้ำหนักจะเริ่มลดลง หุ่นเพรียวกระชับขึ้น
โปรแกรมฟิตหุ่นเพรียวอย่างมีสุขภาพดี ให้คุณเลือกได้ดั่งใจ
1.ผู้ที่ต้องการลดไขมัน ดูแลสุขภาพหลอดเลือดและหัวใจ
แอล-คาร์นิทีน + ออกกำลังกาย 30-60 นาที>>>อ่านเพิ่มเติม<<<
2.ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก ดูแลสุขภาพข้อและกระดูก
3.ผู้ที่ไม่อ้วนแต่อยากผอมเพรียว ฟิตกระชับ
4.ผู้ที่กินน้อยแต่ก็ยังอ้วน
5.ผู้ที่เริ่มอ้วน อวบ พุงยื่น มีไขมันสะสมเฉพาะจุด
6.ผู้ที่อ้วน ตัวหนา ไซส์บิ๊ก
แอล-คาร์นิทีน + แคลเซียม ไพรูเวท + สารสกัดจากถั่วขาว +สารสกัดจากส้มแขก + คอลลาเจน + กาแฟลดน้ำหนัก + ควบคุมอาหาร + ออกกำลังกาย 15-60 นาที >>>อ่านเพิ่มเติม<<<
7.คุณแม่หลังคลอดบุตร และไม่ได้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่
แคลเซียม ไพรูเวท + แอล-คาร์นิทีน + สารสกัดจากส้มแขก + คอลลาเจน >>>อ่านเพิ่มเติม<<<
8.ผู้ที่รักการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ
แอล-คาร์นิทีน + แคลเซียม ไพรูเวท + คอลลาเจน + สารต้านอนุมูลอิสระ >>>อ่านเพิ่มเติม<<<
มุมความรู้ คู่มือลดความอ้วน
การลดน้ำหนักควรลดมวลไขมัน แต่น้ำหนักที่ลงเร็วจะเป็นน้ำกับมวลกล้ามเนื้อ
“ยิ่งพุงใหญ่ ยิ่งตายเร็ว” แพทย์เตือนอ้วนลงพุงอันตรายกว่าอ้วนตรงส่วนอื่นๆ
วัดรอบเอวของคนอ้วนลงพุง มากกว่า 90 ซ.ม. (ชาย) และ 80 ซ.ม. (หญิง)
กินผัก ผลไม้สด(ที่ไม่หวาน) ให้มากไว้ ก่อนกินอาหารมื้อหลัก จะได้กินน้อยลง
เลี่ยงอาหารทอด หนังสัตว์ เนื้อติดมัน ถ้าไม่อยากอ้วน ก็ต้องอดใจไว้ให้ได้
กิน “ข้าวกล้อง” ให้บ่อยขึ้น รวมทั้ง ข้าวโอ๊ต โฮลสวีท โฮลเกรน ธัญพืชต่างๆ
ลดการกิน “ข้าวขัดขาว” รวมทั้ง แป้งขาว น้ำตาลทรายขาว ก๋วยเตี๋ยว ขนมหวาน ขนมปัง คุกกี้ ขนมขบเคี้ยวกรุบกรอบ น้ำอัดลม รวมทั้งเหล้า และเบียร์
กินอาหาร 4-5 มื้อเล็กๆ จะช่วยควบคุมความอยากอาหารได้ดีกว่าการกิน 2-3 มื้อ
กินอาหารแต่ละมื้อให้น้อยลง กินให้อิ่มพอดี อย่ากินให้หมดเพราะความเสียดาย
เคี้ยวอาหารช้าๆเคี้ยวให้ละเอียด เพื่อให้เวลาสมองสั่งการให้เรารู้สึกอิ่ม
ดื่มน้ำทุกครั้งก่อนจะหาขนมเข้าปาก ช่วยลดความอ้วนทั้งยังประหยัดเงินอีกด้วย
ท่องไว้ “กินเพื่ออยู่ ไม่ใช่อยู่เพื่อกิน” เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ แค่ให้พออิ่ม
ไม่ทานอาหารในขณะทำกิจกรรมอื่นๆ เช่น ดูทีวี อ่านหนังสือ เล่นอินเทอร์เน็ต หากต้องการกิน ก็ควรนั่งกินบนโต๊ะอาหารอย่างเป็นเรื่องเป็นราว
อย่าทานอะไรหลังมื้อเย็นอีก หากต้องการผอมเร็วควรทานมื้อเย็นก่อน 18.00 น.
ก่อนซื้อให้อ่านฉลากทุกครั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีแคลอรี่หรือไขมันสูง ควรเลือกชนิดหวานน้อย นมพร่องมันเนยหรือไขมันต่ำ เป็นต้น
ใช้ภาชนะสีเข้มและขนาดเล็กลง เป็นจิตวิทยาที่ทำให้อาหารดูมีปริมาณมากขึ้น
จำไว้อย่าอด เพราะจะทำให้คุณหิวและยิ่งอยากกินมากขึ้น
อดอาหาร “ผอมแต่ไม่ฟิต” มวลกล้ามเนื้อลด และจะกลับมาอ้วนหนักกว่าเก่า
อย่าให้รางวัลตัวเองด้วยการกินฉลอง ไปเที่ยว ช๊อปปิ้ง เสริมสวย จะดีกว่า
เริ่มออกกำลังกายอย่างค่อยเป็นค่อยไป อย่างน้อยก็เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณ
ออกกำลังกายให้นาน 30 นาที ขึ้นไป เต้นแอโรบิค วิ่ง เดินเร็ว เดินขึ้นลงบันได ปั่นจักรยาน ทำงานบ้าน ล้างรถ โดยนาทีที่ 1-25 ร่างกายจะเผาผลาญไกลโคเจน นาทีที่ 25 ขึ้นไป จึงเริ่มเผาผลาญไขมันสะสม หากเหนื่อยพักได้ไม่เกิน 2 นาที ไม่เช่นนั้นร่างกายจะกลับไปเผาผลาญไกลโคเจนใหม่
อย่ากินอาหารก่อนออกกำลังกาย ให้โอกาสร่างกายเผาผลาญไขมันเก่าสะสม
นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ จะเพิ่มระบบเผาผลาญได้มากขึ้นจากปกติถึง 40%
ความเครียดต้นเหตุของความหิว คนส่วนใหญ่มักจะหาของกินเพื่อคลายเครียด
หัวเราะช่วยลดอ้วนลดพุง ขณะหัวเราะกล้ามเนื้อท้องจะหดเกร็ง เพิ่มความแข็งแรง
หาเพื่อนร่วมอุดมการณ์ลดความอ้วน โดยเฉพาะคนในครอบครัวเดียวกัน
เคล็ดลับในการลดน้ำหนัก
สกัด สิ่งกระตุ้นที่ทำให้อยากกิน ไม่กักตุนอาหารเกินความจำเป็น
สะกด ใจไม่ให้บริโภคมากเกิน เลือกกินแต่ของที่มีประโยชน์มากกว่าโทษ
สะกิด ให้คนรอบข้างช่วยเหลือและเป็นกำลังใจขณะลดน้ำหนัก
อย่าทำแค่วันสองวันแล้วก็เลิก หาวิธีที่เหมาะกับตัวเอง ต้องมุ่งมั่นตั้งใจ มีวินัยทำอย่างสม่ำเสมอ แต่อย่าใจร้อน อย่าเครียด อย่าท้อ และหมั่นให้กำลังใจตัวเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น